วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554

ถ้าเราเลือกได้...

ถ้าเราเลือกได้...
เราคงเลือกที่จะใช้ชีวิตง่ายๆ เก็บเรื่องราว เก็บความสุข
เพื่อจะ เก็บออมความรู้สึกดีๆ ความทรงจำดีๆ สะสมไว้...
เพื่อจะ เอาไว้ใช้ในวันต่อๆไปในวันข้างหน้า...

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

เพราะฉัน

ณ วันนี้

ความเสียใจที่เกิดขึ้นก็ยังคงไม่สิ้นสุดลง
มันเหมือนกับเชื้อโรคร้าย
ที่ย้ายที่ไปมา ภายในร่างกายแค่นั้นเอง

มันค่อยๆ กัดกินเรี่ยวแรงของฉันออกไปทีละน้อย
แต่ขณะเดียวกัน ฉันก็เริ่มหมดแรงลงไปทุกที

ฉันเบื่อกับการต่อสู้กับปัญหาเดิมๆ
ฉันเกลียดกับการต้องตอบคำถามเก่าๆ
และที่สำคัญ ฉันเริ่มโกรธตัวเอง

ฉันผิดใช่ไหม ที่เป็นแบบนี้

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

ความเสียใจ ที่ไร้น้ำตา



ฉันนั่งครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
มันประดังประเด เข้ามาจนสมองของฉันปิดการรับรู้

อาจเป็นเพราะ "คาดหวัง จึงผิดหวัง"
แต่ถ้าไม่คาดหวัง ก็คงไม่ผิดหวัง

ฉันไม่เฝ้านั่งหาคำตอบให้มันหรอก
สำหรับทุกอย่างที่เข้ามา
เพียงแต่ ฉันรู้สึกเสียใจ ก็เพียงเท่านั้นเอง

มันจำเป็นไหมนะ .. ?
ที่เวลาเราเสียใจ เราต้องหลั่งน้ำตา
หรือน้ำตา เป็นสัญลักษณ์แทนความเสียใจ
เป็นการแสดงออกถึงสุดขั้วของอารมณ์

แล้วใยวันนี้ ฉันจึงไร้น้ำตา

ฉันปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไป อย่างที่มันเคยเป็น
เพียงแต่มันอาจต่างไปบ้าง ในบางองค์ประกอบ

ฉันกองงานให้สูงท่วมหัว
เพื่อหวังหลีกเร้นความเสียใจ

ฉันไม่ปล่อยเวลาให้จมอยู่กับความคิด
เพื่อที่จะวิ่งหนี ... น้ำตา ...

บางทีมันอาจจะเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นของความเสียใจ
บางทีมันอาจเร็วเกินไป สำหรับการหลั่งรินของน้ำตา

แต่ ณ วันหนึ่ง
วันที่ฉันต้องอยู่กับอดีต
วันที่ฉันหยุดไขว่คว้าอนาคต

วันนั้น ฉันอาจมี ... น้ำตา ...

ฉันจะเล่าให้ฟัง

ฉันจะเล่าให้เธอฟังนะ เรื่องความรัก

ความรักเริ่มต้นจากอะไร ...
มันเริ่มต้นมาจากความสมดุล
ของคนสองคน

แต่พอนานวันเข้า
ความสมดุลนั้นก็เปลี่ยนไป

อาจเป็นเพราะเธอเปลี่ยน
อาจเป็นเพราะเขาเปลี่ยน
หรือเพราะเปลี่ยนไปทั้งสองคน

เปลี่ยนไปจนไม่สามารถรักษาสมดุลไว้ได้
จุดที่เคยสมดุลแรกนั้น ก็จบลง

และก็วนไปจุดเริ่มต้น หาความสมดุลใหม่ต่อไป
มันก็เพียงเท่านี้เองแหละ ... ความรัก

บทความจากใครบางคน

บทความจากใครบางคน

............ความรักทำให้เรามีความสุขเพียงครั้งเดียว
แต่ทำให้เราเสียใจนับร้อย นับพันครั้ง...................

มันคงเป็นจริงเช่นดังคำกวีแล้วเจ้าบล็อกเอ๋ย
ระยะทางมันเดินมาไกลเกินกว่าจะเหม่อมอง
มันคงไกลเกินกว่าสายตาจะไปถึง
มันไกล.............................

แต่ในขณะที่หลายๆ อย่างผันแปร
ทั้งเวลา ทั้งคำพูด และหัวใจ

แต่เจ้าก็ยังอยู่ตรงนี้
คอยรับฟัง ทุกข์ สุข เหงา เศร้า และความเดียวดาย

คงมีแต่เจ้าที่ซื่อตรง
ในท่ามกลางการผันผ่านโดยกาลเวลา

ไม่มีใครผิดหรอกเจ้า
ถ้าจะโทษ ก็คงต้องโทษระยะทาง
มันคงไกลเหลือเกิน ไกลเกินกว่าหัวใจของใครบางคน

.....จะเดินทางมาหาข้าได้......
มันคงมีหลายคนเอื้อมคว้า หัวใจดวงนั้นไป
และมันคงหลุดร่วงไป ตามแรงดึงเหล่านั้น อย่างมิอาจหลีกเร้น

จึงเหลือเพียงข้า ... ที่เฝ้ารอ
และยังมีเจ้า ... ที่เฝ้าดู

เฝ้าดูข้าเถิด เจ้าบล็อกเอ๋ย
เพราะมีแต่เจ้าเท่านั้น ที่มองเห็นข้า
มองเห็นทุกอย่างที่ข้าคิด มองเห็นทุกอย่างที่ข้าทำ
แต่ใยเจ้าไม่เคยมองนายของเจ้าเลย

เพราะเจ้าไม่สนใจเขา
ในวันนี้ เขาจึงจากเราไป ... ไม่หวนคืน ...

ทำใจเถิดข้า โปรดเจ้าช่วยกระซิบให้ข้าฟัง
เวลาเพียงเท่านั้นที่จะเยียวยา
และข้าหวังเหลือเกินว่า สักวัน ข้าจะหายดี .... ?

แด่คนเคยรัก


แด่คนที่ฉันเคยรัก
แด่คนที่เคยซื่อตรง
ที่พาชีวิตฉันพลัด ฉันหลงหลง ..ไม่มีชิ้นดี
เธอทำให้ฉันหัวเราะ
เธอทำให้ฉันร้องไห้
เธอทำชีวิตที่มีความหมาย.. ฉันตายทั้งเป็น
ฉันมันไม่ดีตรงไหน โง่เกินไปหรือเปล่า
แผลที่เธอทำมันลึก มันร้าว.. มันเข้าไปฝังใจ

ฉันมันไม่ดีตรงไหน จะบ้าจะตายเพราะเธอ
หัวใจยังจำ ยังคิดเสมอถึงเธอคนทำ ..

เธอทำให้ฉันหัวเราะ เธอทำให้ฉันร้องไห้
แต่คงเป็นคนสุดท้าย ที่ฉันจะยอมให้ทำ
แต่คงเป็นคนสุดท้าย ที่ฉันจะยอมให้ทำ....

วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2554

ที่ไหนสักแห่ง


ทุกครั้งที่ฉันเปิดเขัามา
และพบเพียงแต่บทความของตัวเอง...


ฉันจะรู้สึกคล้ายกับว่า

ฉันเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง

ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ยาว ... เพียงลำพัง


ฉันมองผู้คนเดินผ่านไปมา
แต่ไม่มีสักคนที่หยุดนั่งข้างฉัน

และในขณะที่ฉันนั่งรอเธอ

เธอกลับไม่เคยเดินผ่านมา

หรือถ้าเธอเดินผ่านมา แต่เธอก็จะผ่านไป