วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
ฉันจะเดินทางไป
สวัสดีที่รักของฉัน
ใกล้แล้วสินะ ที่ฉันจะเดินทางไป
...
ดูสิว่าวันนั้นจะสดใสเท่าไหน
ดูสิว่าดวงใจของฉันจะโบกบินเพียงใด
ดวงตะวันจะยิ้มรับฉันไหม
ท้องฟ้าสีฟ้า ก้อนเมฆสีขาว จะรู้สึกอย่างไร
ท้องทุ่งสีเขียวจะตื่นเต้นหรือเปล่า
ยามค่ำคืนดวงดาวจะเปล่งประกายแค่ไหน
เสียงเพลงจะไพเราะเพียงใด
…
ฉันจะเดินทางไป
พร้อมกับความรัก
วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
ก่อนที่...
ก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้นมา
ก่อนที่มีเสียงโทรศัพท์เข้ามา
ก่อนที่จะเดินทางออกไปทำงาน
ก่อนที่จะหอมกลิ่นกาแฟตอนเช้า
ก่อนที่จะเปิดคอมพิวเตอร์ทำงาน
ก่อนที่จะถึงเวลาอาหารกลางวัน
ก่อนที่จะได้ยินเสียงแอร์ทำงาน
ก่อนที่หยิบนิตรสารขึ้นมาอ่าน
ก่อนที่ฉันจะหลับตาลงในคืนนี้...
ก่อนที่ความฝันจะผ่านเข้ามา
ก่อนที่ชีวิตต่อจากนี้ไป
และทุกทุกก่อนที่...ฉันจะมีเธอ
วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
วันที่ฟ้าใส
เมื่อวานเหมือนพายุกระหน่ำใจฉันอย่างรุนแรง
ความท้อแท้ สิ้นหวัง ประดังประเดเข้ามาไม่หยุดหย่อน
น้ำตาไหลแล้วไหลอีก ราวกับเขื่อนแตก
แต่ก็น่าแปลกหลังจากน้ำตากลบท่วมตาแล้ว
ตาของฉันสดใสกว่าเก่า
พอน้ำเย็นๆ จากฝักบัวไหลกระทบร่างกาย
มันก็พัดพาน้ำจากตาให้หายไปด้วยเช่นกัน
วันนี้ฉันยืนมองฟ้าด้วยความรู้สึกใหม่
เพราะมันดูสดใสกว่าวันที่เคยเห็น
คงเป็นเธอที่ทำให้ฉันรู้จักคิดเป็น
และคงเพราะเธอเห็นในสิ่งที่ฉันทำ
วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
ชีวิตฉันมันน่าตื่นเต้นอยู่แล้ว
ซิตอัพ สวดมนต์ แล้วก็นั่งสมาธิ
นับแต่ลืมตา ฉันก็รู้ว่าวันนี้ ฉันจะวางจุดหมายไว้อย่างไร
...
......
มีน้อยครั้งมาก ที่ฉันจะรู้สึกหมดกำลัง
แต่ฉันก็จะนอนลง หลับตา แล้วก็สูดเอากำลังเข้าไปใหม่
เพราะฉันชอบการเอาชนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชนะใจตัวเอง
...
......
ดังนั้นในชีวิตฉันจึงไม่ค่อยรู้จักกับคำว่าขี้เกียจ
ทุกครั้งที่ฉันขี้เกียจ ฉันก็จะตั้งกฎขึ้นมา
เพื่อหักล้างความขี้เกียจนั้น
และเมื่อฉันทำสำเร็จ ฉันจะรู้สึกว่า ตัวเองเป็นผู้ชนะ
อย่างนี้ชีวิตฉัน จึงไม่ต้องแบ่งออกเป็นส่วน ส่วน
ชีวิตฉัน = ส่วนสังคม + ครอบครัว + ส่วนตัว
เพราะฉันชอบความยุ่งเหยิง
และถ้าฉันผ่านความยุ่งเหยิงไปได้
... ฉันก็จะเป็นผู้ชนะ .. อีกครั้ง
เพราะการเอาชนะความยุ่งเหยิง
คือการปลดพันธนาการของปัญหาทั้งปวง
วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
ชีวิตผมมันไม่น่าตื่นเต้นอยู่แล้ว
ชีวิตผมมันไม่น่าตื่นเต้นอยู่แล้ว
เช้ามาก็แทบไม่อยากตื่นลุกจากที่นอน
เหมือนว่าจะไม่มีจุดมุ่งหมายในชีวิต…
...
ทุกๆครั้งและหลายๆครั้งที่รู้สึกเหนื่อย
ผมก็มักบอกกับตัวเองเสมอว่า ทำมันให้ดีที่สุด
ถ้าผมได้เกิดเป็นคนกวาดขยะผมก็จะกวาดขยะให้สะอาดที่สุด
...
และผมก็ชอบบอกกับใครหลายๆคนที่ผมรู้จักว่า
ชีวิตของคนเราน่าจะแบ่งเป็น3ส่วน
...ส่วนสังคม ผมทำหน้าที่ได้ดี
...ส่วนครอบครัว เป็นครอบครัวที่อยู่กันแบบหลวมๆ สบายๆ
...ส่วนตัว บางครั้งผมก็หลบตัวเอง
ตามร้านหนังสือ ร้านกาแฟ โรงหนัง
และบ่อยครั้งที่ผมอยู่ในห้องโดย
ปลดพันธนาการด้านการสื่อสารทั้งหมด...
วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
ความบังเอิญ ... ที่ลงตัว
มันก็ดูน่าตลกนัก
เพราะไม่มีใครจำได้สักคน ว่าเรารู้จักกันได้ยังไง ?
แต่ก็ไม่เห็นมันสำคัญ
เพราะอนาคตของเราไม่ได้แขวนอยู่บนเหตุผลเส้นนั้นสักหน่อย
บางทีการที่เรารู้จักกัน
อาจจะเป็นคำสั่งจากคนบนนั้น ... บนฟ้า
ที่ชักนำให้เธอเดินเข้ามา
และนำใจของเรามา ... ใกล้กัน
ฉันขอเรียก การที่เรารู้จักกัน ว่า "ความบังเอิญ"
เพราะเธอเป็นใครก็ไม่รู้ ที่เหมือนเดินออกมาจากความฝัน
ทุกสิ่งที่เธอพูด คือ ทุกสิ่งที่ฉันนึก
ทุกสิ่งที่เธอทำ คือ ทุกสิ่งที่ฉันฝัน
ก็แล้วจะให้ปฏิเสธหัวใจอย่างไร
ในเมื่อเจอแล้วคือเธอนี่ไงที่ใจตามหา
ทุกสิ่งที่เธอทำคือสิ่งที่ฉันคอยตลอดมา
ต้องขอบคุณฟ้า ที่ชักนำเธอมา ให้เจอกัน
สุขใจ ยิ่งกว่าสิ่งใด ใด ที่รู้สึก
สุขใจ ลึก ลึก อย่างไม่เคยคิดฝัน
เพราะเธอ เพราะเธอมาคอยเติมคืนวัน
เพราะฉัน เพราะฉันเป็นคนที่โชคดี
....................................................ณ ขณะนี้ ความรักที่ฉันมี เต็มหัวใจ.........
วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
เพราะเธอ
2.46 am.
เมื่อคืนเธอได้สร้างรอยยิ้มเปื้อนอยู่ในใจฉัน
เพียงถ้อยประโยคสั้น สั้น แต่กินไปทั้งใจ
เธอเองจะรู้ไหมว่าทำอะไรกับชีวิตฉัน
เธอมาเปลี่ยนแปลงกันให้เปลี่ยนไปขนาดไหน
เข้ามาเติมเต็มความรักความห่วงใย
เข้ามาแบ่งปันอีกหนึ่งใจ...ให้กัน
หาก "เพราะเธอ" ที่ทำให้ฉันสุขใจ
ขอโปรดอย่าทิ้งกันไป...ฉันขอ
อยู่ร่วมสร้างความฝันที่ฉันเฝ้ารอ
อยู่ร่วมเดินทางต่อด้วยกัน
วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
จูบ (Kiss)
จูบ (Kiss): เจ็ตเซ็ตเตอร์ (Jetseter)
นั่งอยู่ตรงนี้ข้างกายฉันก็มีเธออยู่
ก็ลองมาคิดดู เรานั้นโชคดีกว่าใคร
เพราะมีเธอคนนี้เป็นที่รัก
และฉันไม่ได้ฝันไป ขอให้ลมช่วยพัดพาหัวใจ
สองเราให้ลอยไป ในคืนนี้ โอ้ โอ
Oh baby ฉันรักเธอเท่านั้น
ใต้แสงจันทร์มีเพียงเราสอง
นั่งมองแสงดาวที่พรั่งพราว
บนฟ้าไกลไปด้วยกัน
เปรียบดั่งความฝันในเวลานี้
เมื่อฉันมีเธออยู่แนบชิดกาย
ด้วยสายตาและสัมผัสด้วยรักที่เรามีให้กัน
โอ้ฉันจะจูบเธอ
ไม่อาจจะฝืนความสวยของเธอได้ baby
ต้องยอมรับอีกซักที ว่าเราโชคดีกว่าใคร
เพราะมีเธอคนนี้เป็นที่รัก
และฉันไม่ได้ฝันไป ขอให้ลมช่วยพัดพาหัวใจ
สองเราให้ลอยไป ในคืนนี้ โอ้ โอ
วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
วันที่ใจเบิกบาน
้ำวันนี้ดูเหมือนทุกทุกวันทีี่ผ่านมา
ตื่นหกโมงเช้า ซักผ้า อาบน้ำ กินข้าว แล้วก็ไปทำงาน
ทุกอย่างยังเหมือนเดิม พร้อมกับงานที่กองสูงเท่าเดิม
ทุกคนหน้าเครียดเหมือนเดิม
...แต่ฉันหัวใจเบิกบาน...
ฉันทำงานด้วยหน้าตาปรกติ แต่ยิ้มอยู่ในใจ
ฉันเอางานมาวางตรงหน้า แต่เอาใจไปวางตรงเธอ
ในทุกขณะเวลาที่ฉันคิดถึง ฉันมีความสุข
คงเป็นเพราะเธอ ที่ทำให้ใจฉันเบิกบาน (ฉันคิดเช่นนั้น)
หากเปลี่ยนแปลงชีวิตฉัน อย่าทิ้งไว้กลางคัน
อย่าจบไปแค่นั้น ฉันยังไม่เข้าใจ
ช่วยแต่งเติมบทสุดท้าย แม้ไม่เป็นดั่งใจ
อย่าจบมันเอาไว้ ....ทิ้งฉันไปหาใครคนอื่น ..... รู้ตัวหรือเปล่า ?
วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
ช่วงเวลาดีดี...ที่จะไม่ยอมให้ผ่านไป
อะ เดย์: โมโนโทน
เธอจะเคยรู้สึกไหม อาจจะเคยสงสัย
ว่าต้องใช้เวลาเท่าไร กับการต้องเดินผ่านใครสักคน
อาจแค่ชั่วพริบตา อาจต้องใช้เวลา
กับความอ่อนไหวและความเหนื่อยล้า
ผ่านมามากมายเหลือเกิน
ก่อนที่ต้องเดินผ่าน ผ่านใครอีกหลายคน
อยากมีช่วงเวลา กับสิ่งดีๆที่ผ่านเข้ามา
เพื่อให้ได้พบคำตอบ ว่าคนที่ฉันเฝ้ารอ
อาจจะเป็นเธอ ที่ผ่านเข้ามาพบเจอ
ไม่ต้องเข้าใจว่าเพราะอะไร
บางสิ่งที่อยู่ข้างในเราเหมือนกัน
อาจแค่ชั่วพริบตา อาจต้องใช้เวลา
จะไม่หวั่นไหวกับความอ่อนล้า
หากว่าคนที่ยืนตรงนี้นั้นคือเธอ
*ช่วงเวลาดีๆที่มีกับเธอคนนี้
จะเป็นช่วงเวลาดีๆที่จะไม่ยอมให้ผ่านไป
ใครเล่าเลยจะรู้ว่าสักวันคุณจะพบใคร
สักคนที่ไม่ต้องเดินผ่าน
หากวันนั้นได้ลองหยุดดูเพื่อพบกัน(กับ)
ก่อนที่ต้องเดินผ่าน ผ่านใครอีกหลายคน
อยากมีช่วงเวลา กับสิ่งดีๆที่ผ่านเข้ามา
เพื่อให้ได้พบคำตอบ ว่าคนที่ฉันเฝ้ารอ
อาจจะเป็นเธอ ที่ผ่านเข้ามาพบเจอ
ไม่ต้องเข้าใจว่าเพราะอะไร
พายุสงบ
เหมือนเรา (ไม่) เข้าใจ
น้ำตาสองสามหยดไหลรินออกมา หลังจากวางสายโทรศัพท์ไป
น้ำเสียงเธอดูเศร้า และแน่นอน ฉันก็เศร้าตาม
เธอบอกเศร้าเพราะหนัง แต่ฉันอยากบอกว่าฉันเศร้าเพราะเธอ
ฉันโทรหาเธอห้าหกสายได้มั้ง ..........ติดต่อไม่ได้...........
ทั้งที่ความจริงมันอาจจะไม่มีอะไร แต่ฉันก็ไม่สบายใจ
ฉันเพียรพยามยามต่อเนตเจ้าปัญหา ตั้งแต่ห้าทุ่มกว่าแล้ว
และหวังว่าเธอจะยังใช้มันอยู่
หรือหากเธอหลับแล้ว พรุ่งนี้ เธอคงจะรู้ว่าฉัน "แคร์เธอมาก"
คงเพราะฉันเป็นฉันแบบนี้ ในขณะที่เธอก็เป็นเธอ
....... ดูเหมือนเรา ไม่ เข้าใจกัน .........
ฉันไม่ควรปล่อยให้เวลามันล่วงเลย แล้วจึงโทรกลับไปหาเธอ
เพราะบางทีเวลาเพียงเสี้ยว อาจทำให้เธอ ..หายไป..
คืนนี้ ฉันรู้สึกว่าเวลามันช่างยาวนาน คืน ที่ไร้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ....
วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
เมื่อยามฝนพรำ...เธอทำอะไร
วันนี้อากาศที่นี่ไม่สดใสเอาซะเลย
สายฝนโปรยปรายมาตั้งแต่รุ่งเช้า จนเย็นค่ำ
เม็ดต่อเม็ด เหมือนฟ้าฝนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
...ฉัน... นอนอุตุอยู่ในห้องทั้งวัน และ "คิดถึงเธอ"
ฝนพรำที่นำพาเอาความเหน็บหนาวเข้ามา
มันหนาวเข้าไปถึง ...หัวใจ...
วันนี้อากาศที่นู่นคงจะสดใสหล่ะมั้ง ?
เธอก็คงทำงาน ทำงาน แล้วก็ทำงาน
งานต่องาน คงยุ่งจนทำให้เธอลืมนึกถึงกัน
ถ้าฉันเป็นสายลม ฉันคงจะเฝ้าตามเธอไปทุกหนแห่ง
ถ้าฉันเป็นสายฝน ฉันคงจะเฝ้ามองเธอจากนอกหน้าต่าง
"เมื่อยามฝนพรำ...เธอทำอะไร"
จะนึกถึงกันบ้างไหม อยากถาม
เพราะฉันคิดถึงเธอ ทุกขณะทุกโมงยาม
ที่อยากคุยอยากถาม ก็เพราะความห่วงใย
"เมื่อยามฝนพรำ...ฉันคิดถึงเธอ"
และยังคิดถึงเสมอ ไม่ว่าฝนตกหรือไม่
ฝากบอกเธอ ฝากทวงถามความห่วงใย
ส่งมาให้บ้างได้ไหม ฉันจะรอ
วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
เธอใช่ไหม ที่หัวใจตามหา
ทำงาน ทำตามหน้าที่ ทำเรื่องที่ต้องทำ แล้วก็ทำเพื่อ ฉัน กับ เธอ
วันนี้ฉันเริ่มวางเป้าหมาย คิดถึงปลายทาง แล้วก็นึกถึง เธอ
วันเวลาตอนนี้ผ่านไปอย่างมีค่า และฉันยังแอบมองข้างกายอยู่บ่อยๆ
....................เพราะมีเธอ......................
พรุ่งนี้ฉันจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับเธอ เพื่อดำเนินชีวิตไปด้วยกัน
ทำงาน ทำตามหน้าที่ ทำเรื่องที่ต้องทำ แล้วก็ทำเพื่อ "เรา"
พรุ่งนี้ "เรา" เดินไปตามเป้าหมาย และจะเดินไปให้ถึงปลายทาง
วันเวลาตอนนี้มีค่าและตราตรึง ฉันมองไปที่ข้างกายฉัน และพบว่า
...............เธอใช่ไหม ที่หัวใจตามหา....................
วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
เราจะข้ามเวลามาพบกัน
ที่กรุงเทพฯ
ช่วงเย็นๆใกล้ค่ำ..
ฝนจะตกเหมือนทุกๆวัน
เหมือนตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ให้
เทวดามารดน้ำกรุงเทพให้เปียกปอน
อากาศที่นี่ช่วงค่ำคืน เย็นสบายมาหลายวัน...
หลังฝนโปรยปรายมาจนเทวดาพอใจ
ช่วงหนึ่ง…ในห้องแคบๆ คอนโดเก่าๆ
ผมเปิดเพลงจากเครื่องลำโพง
เพลงที่เปิด…
เป็นเหมือนเพื่อนที่สนิทมากที่สุดผมตอนนี้
แต่เพลงที่เปิดทำไมกลับกลายทำให้
ผมรู้สึกโดดเดียวอย่างบอกไม่ถูก