วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เธอจะเชื่อไหม


















เธอเป็นเพียงใคร คนหนึ่งที่เดินมาในชีวิตฉัน

แต่เธอมาเปลี่ยนแปลงกัน ไปถึงขนาดไหน
ความอ่อนโยนของเธอปกคลุมไปทั้งหมดใจ
แล้วเธอจะเชื่อไหม วันนี้ ฉันรักเธอ

รักคำเดียว คงมีเพียงคำนี้
ที่แทนทุกความรู้สึกที่มีในใจฉัน
น้อยไปไหม ที่ฉันจะตอบแทนรักที่เธอให้กัน
แต่คำว่ารักจากฉัน ขอมอบมัน ให้เธอ

โปรดดูแล และโปรดถนอมหัวใจ
เพราะมันเคยอ่อนแอ พ่ายแพ้ และร้องไห้
อดีตที่เลวร้าย เกาะกุม ปกคลุมไปทั้งใจ
โปรดลบอดีตที่เลวร้าย ออกไปเสียที

วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2552

แล้วเราจะรักกันไปถึงวันไหน

*
สมมุติว่าเธอเป็นพ่อ
แล้วให้ฉันเป็นแม่
พอฉันเริ่มแก่
เธอจะยังรักฉันไหม

เธอทำงาน
ฉันก็ทำงาน
แล้วจะมีเวลาว่าง
ให้ลูกเราไหม

เธอเข้มแข็ง
แต่บางทีฉันก็อ่อนแอ
เวลาฉันผ่ายแพ้
เธอจะปลอบโยนฉันไหม

ฉันรักเธอ
เธอรักฉัน
แล้วเราจะรักกัน
ไปถึงวันไหน
*

วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2552

คิดถึง โว้ย



คิดถึง Peacemaker

หลับตาลงยังรู้สึก
ท่ามกลางความอ้างว้างในหัวใจ
ค่ำคืนยาวนาน กับความเดียวดาย
และลมหายใจที่ว่างเปล่า

** อยากให้เธอได้สัมผัส
กับความห่วงใยที่มีให้เธอ
ได้ยินเสียงของพระจันทร์
จะกล่อมเธอฝันดี ให้เธอได้รู้ตลอดไป
** ว่าทุกเวลา ที่เราห่างกันแสนไกล
ยังมีอีกคำในหัวใจ ที่จะบอกเธอ
ให้เธอได้รู้และเข้าใจ
*** ว่าคิดถึงเธอ เมื่อเราห่างกันแสนไกล
มีคำหนึ่งคำจะพูดไป ให้เธอได้รู้
จะแทนความหมายความห่วงใย
ฉันคิดถึงเธอ
ก็ฉันมีเพียงเธอ

ริมแม่น้ำปิง




วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2552

เวลา



เวลา เดินไป เดินไป แล้วก็เดินไปข้างหน้า
ไม่เคยหยุดพัก ไม่เคยถอยหลัง
ผิดกับชีวิตคน
บางครั้งมีหยุดพัก มีเลี้ยวซ้าย มีเลี้ยวขวา
"และมีถอยหลัง"

บางครั้งเวลาเดินเร็ว กว่าชีวิต
เวลาก้าวเดิน แต่ชีวิตหยุดอยู่กับที่
เวลาไปข้างหน้า แต่ชีวิตเริ่มถอยหลัง

แล้วเมื่อคนสองคนมาอยู่ด้วยกัน
แต่ละคนต่างมีเวลาของตัวเอง
แม้ว่าเวลาของทุกคนต่างต้องเดินไปข้างหน้า
เวลาของเธอเดินไป พร้อมกับชีวิตเธอ
แต่เวลาของฉันเดินไป ... โดยปราศจากชีวิตฉัน

ชีวิตฉันยังคงยืนนิ่ง ไร้การเคลื่อนไหว
ไร้ความคิด ไร้ความรู้สึก ไร้การรับรู้
ฉันยืนนิ่ง มองเวลาที่มันเดินไป พร้อมกับเธอ
เดินไป นับระยะห่าง ที่มันมากขึ้นทุกที ...

วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2552

ยังอยากรู้ สองเรา



ยังอยากรู้ สองเรา - เอิ้น พิยะดา&สครับ (scrubb)

อาจมีคำถามมากมาย ที่ยังค้างคา ว่าทำไมฉันต้องมารักเธอ
แต่มันก็เหมือนสายไป ถ้าจะค้นเจอ ในวันที่ฉันรักเธอหมดใจ

ก็นั่งลงนึกภาพเธอไปอีกหลายปี หน้าตาแบบนี้แต่ฟันหายไป
แต่ที่ยังรักๆ เธอ ฉันเองมั่นใจ ไม่รู้ว่าเธอคิดอย่างไร

ฉันเองก็ยัง..อยากรู้ ถ้าวันหนึ่งเธอไม่สบาย
ในวันที่เธอนั้นแก่ สายตาเริ่มแย่
อยากให้ใครมาเดินอยู่ใกล้ๆ

หรือว่าไม่เคยคิด ไม่เคยคิดเลย ว่าจะเป็นใคร
เพราะว่ารู้ดี ว่าทั้งหัวใจ จะมีเธอเท่านั้น ที่อยู่ในใจฉันตลอดเวลา
ไม่ใช่ชายในฝัน มากกว่าความฝัน เพราะเธอมีอยู่จริง
คนที่เข้าใจฉันในทุกสิ่ง ที่ฉันนั้นเป็นอยู่
และอยากจะขอให้เธอนั้นอยู่กับฉันตลอดไป.

วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2552

ในคืนที่แสงดาว ไม่พร่างพราวเหมือนวันก่อน



เธอจะไปกับฉันไหม

เมื่อเอ่ยถึงรักเราที่เป็นอยู่ตอนนี้ เริ่มต้นดูเข้าทีดูดีและสวยงาม
แต่ต่อจากนี้ซิชีวิต เมื่อคิดและตรองดู
สิ่งที่เราเห็นอยู่ก็คือทางที่มีแต่ขวากหนาม

อยาก อยากที่จะลองถาม ว่าเธอพร้อมร่วมทาง
เคียงข้างกันกับคนอย่างฉันหรือเปล่า
มันอาจจะเหน็บหนาว ในคืนที่แสงดาว ไม่พร่างพราวเหมือนวันก่อน
อาจเดือดร้อน ในบางครั้งที่เราต้องลำบาก
เธอจะเสียใจบ้างไหมในวันที่ทุกข์ยาก
อยากถามว่าเธอจะไปกับฉันไหม

หากเธอมั่นใจพร้อมก้าวไปกับฉัน มาใช้ชีวิตร่วมทางฝันไปพร้อมกัน
แม้เส้นทางชีวิตอาจจะไม่รู้ อยากให้รู้ไว้เพียงว่า
คนอย่างฉันสัญญาว่าจะรักๆเธอตลอดไป

อยากถามว่าเธอจะไปกับฉันไหม อยากจะรู้เธอคิดยังไง
อยากจะรู้ว่าเธอจะไปกับฉันไหม.

วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2552

ยังอยากรู้



ยังอยากรู้ - เอิ้น พิยะดา&สครับ (scrubb)

อาจมีคำถามมากมาย ที่ยังค้างคา ว่าทำไมฉันต้องมารักเธอ
แต่มันก็เหมือนสายไป ถ้าจะค้นเจอ ในวันที่ฉันรักเธอหมดใจ

ก็นั่งลงนึกภาพเธอไปอีกหลายปี หน้าตาแบบนี้แต่ฟันหายไป
แต่ที่ยังรักๆ เธอ ฉันเองมั่นใจ ไม่รู้ว่าเธอคิดอย่างไร

ฉันเองก็ยัง..อยากรู้ ถ้าวันหนึ่งเธอไม่สบาย
ในวันที่เธอนั้นแก่ สายตาเริ่มแย่
อยากให้ใครมาเดินอยู่ใกล้ๆ

หรือว่าไม่เคยคิด ไม่เคยคิดเลย ว่าจะเป็นใคร
เพราะว่ารู้ดี ว่าทั้งหัวใจ จะมีเธอเท่านั้น ที่อยู่ในใจฉันตลอดเวลา
ไม่ใช่ชายในฝัน มากกว่าความฝัน เพราะเธอมีอยู่จริง
คนที่เข้าใจฉันในทุกสิ่ง ที่ฉันนั้นเป็นอยู่
และอยากจะขอให้เธอนั้นอยู่กับฉันตลอดไป.

วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2552

บทเพลงแห่งความอ่อนหวานแห่งเรจิน่า















จากแววตาในดวงตาสีน้ำตาลของเธอและดวงดาวของค่ำคืน
เมื่อฉันทักทายและเอื้อมมือโอบกอดเธอ…
เธอเอียงอายและซ่อนรอยยิ้มโรยปรารถนา
บทเพลงแห่งความอ่อนหวานแห่งเรจิน่าคงขับกล่อม

วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2552

ข้ามสะพาน



ณ วันที่เราสองคนพบกัน
....
บรรยากาศฝนพรำ

แต่ทำให้เราได้รับไออุ่นของกันและกัน
เธอจับมือฉันแผ่วเบา แล้วก้าวข้ามสะพาน
ระยะทางที่ทอดข้ามแม่น้ำสายหนึ่ง
เธอหันมามองฉัน และฉันสบตาเธอ

....
ฉันบอกว่ารักเธอ แม้คำนั้นออกมาจากปาก
แต่แรงส่งมันมาจากหัวใจ
เธออมยิ้ม แต่ทำให้ฉันสุขใจ
แม้จะปราศจากคำตอบกลับ
แต่ฉันรู้ ว่าเธอก็คงคิดไม่ต่างกัน

....
เวลาไม่ยาวนาน เราก้าวข้ามมาอีกฝั่ง
ฉันมองย้อนกลับไป
แม้จะเหมือนมองถึงอดีต แต่ฉันมองเห็นอนาคต
เธอกุมมือฉันเหมือนเดิม แต่ไออุ่นขึ้นกว่าเดิม
และแม้ว่าตอนนี้ เธอจะยังไม่เอ่ยคำใด นอกจากคำว่ารัก
แต่ฉันก็รับรู้เสมอว่า มันจะทับทวี ไปพร้อมกับใจเธอนั่นเอง ...

วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2552

มีเธอ



มีเธอ
ปุ๊ อัญชลี จงคดีกิจ

ฉันไม่รู้จะเป็นอย่างไร ถ้าฉันไม่มีเธออย่างนี้
ฉันก็คงหลงทาง กำลังใจหายไปทุกที ไม่มีใคร...ไม่มีเลย
ฉันไม่รู้จะเป็นอย่างไร วันที่ใจฉันนั้นเหน็บหนาว
รักที่เธอให้มา มันมาแทนที่ความว่างเปล่า อบอุ่นในใจ...เมื่อฉันมีเธอ

รู้ไหมรักของเธอนั้นคือคำตอบ
ทำให้คนอย่างฉัน...ได้พบความหมาย (ได้พบความหมาย)
รักที่ฉันสัมผัส รับรู้ได้ด้วยใจ เธอยังคงมีหัวใจที่แท้จริง

ถึงพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ใจฉันคงจะไม่อ้างว้าง
รักที่ใจของเธอ คอยนำทางให้แสงสว่าง เมื่อมีเธอ...เข้ามาในใจ

รู้ไหมรักของเธอนั้นคือคำตอบ
ทำให้คนอย่างฉัน...ได้พบความหมาย (ได้พบความหมาย)
รักที่ฉันสัมผัส รับรู้ได้ด้วยใจ เธอยังคงมีหัวใจที่แท้จริง

ฉันไม่รู้จะเป็นอย่างไร วันที่ใจฉันนั้นเหน็บหนาว
รักที่เธอให้มา มันมาแทนที่ความว่างเปล่า อบอุ่นในใจ...เมื่อฉันมีเธอ

ฉันได้มาพบเธอ เธอคือความรักที่ยิ่งใหญ่
อบอุ่นในใจ....เมื่อฉันมีเธอ...

วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2552

แค่เพียงเราจับมือกัน



แค่เพียงเราจับมือกัน
ความรักจากเธอก็ส่งผ่านมาถึงตัวฉัน


แค่เพียงเราจับมือกัน
ความรักจากฉันก็ส่งต่อไปยังตัวเธอ


แค่เพียงเราจับมือกัน
ความเหนื่อยจากใจฉันก็หมดสิ้น

แค่เพียงเราจับมือกัน
สิ่งที่เคยอยู่แต่ในความฝันก็พลันบังเกิดขึ้น

แค่เพียงเราจับมือกัน
ชีวิตของเธอและฉันก็ใกล้กันมากขึ้น


แค่เพียงเราจับมือกัน
อนาคตของเธอก็มีตัวฉัน

แค่เพียงเราจับมือกัน

อนาคตของฉันก็มีตัวเธอ

แค่เพียงเราจับมือกัน
.... เพราะ ... เพียง ... แค่เราจับมือกัน

วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2552

ขอบคุณ



ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ ... ความรัก
ที่ช่วยให้ใจได้หยุดพักแล้วพบเธอ
ต่อมาต้องขอบคุณ ... น้ำตา ... ที่เคยไหลเอ่อ
เพราะมันทำให้ได้พบเจอกับความสดใส

ไม่ลืมขอบคุณความบังเอิญที่นำทาง
ขอบคุณความอ้างว้างที่ให้รู้ว่าเจ็บปวดขนาดไหน
และคงต้องขอบคุณระยะทางที่แสนห่างไกล
เพราะมันทำให้รู้ว่า ... รักเธอแค่ไหน ... ในปัจจุบัน


ขอบคุณตัวเธอเหลือเกินที่เดินมาเจอกัน
ขอบคุณนะที่มอบใจให้ฉัน ... และรักษามันไว้
ขอบคุณสำหรับคำสัญญา ที่บอกแทนหัวใจ
ขอบคุณ ... ขอบคุณ ... คำนี้คงยังน้อยไป กับสิ่งที่เธอให้กัน


...
.......
...........
.....................ด้วยรักที่คงมั่น.......

วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2552

She

She

May be the beauty or the beast
May be the famine or the feast
May turn each day into a heaven or a hell
She may be the mirror of my dreams
A smile reflected in a stream
She may not be what she may seem
Inside her shell

She who always seems so happy in a crowd
Whose eyes can be so private and so proud
No one’s allowed to see them when they cry
She may be the love that cannot hope to last
May come to me from shadows of the past
That I’ll remember till the day I die

เธออาจเป็นสาวงามหรือสัตว์ร้าย
อาจจะอดอยากหรืออิ่มหนำ
อาจจะเปลี่ยนแต่ละวันให้เป็นสวรรค์หรือนรก
เธอ อาจเป็นกระจกแห่งความฝันของฉัน
เป็นเงาสะท้อนรอยยิ้มในสายธาร
เธออาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เธอเป็น ภายใต้เปลือกที่ปิดบังตัวเธอ

เธอ ผู้ซึ่งดูเหมือนมีความสุขท่ามกลางฝูงชน
ดวงตาเธออาจดูเก็บงำหรือเย่อหยิ่ง
แต่ไม่ใครได้เห็นดวงตาคู่นั้นยามที่เธอร้องไห้
เธอ อาจเป็นความรักที่ไม่อาจหวังว่าจะจบสิ้น
อาจมาหาฉันจากเงาของอดีต
ซึ่งฉันจะจดจำไว้จนวันตาย

วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2552

ฉันรู้ควรรักเธออย่างไร...


เต็มใจให้ - ศุ บุญเลี้ยง

ฉันรู้ควรรักเธออย่างไร เพราะรู้ความจริงเป็นเช่นไร
ฉันรักรักเธอเพราะใจอยากให้ ใช่รักเพียงเพื่อครอบครอง
ไม่เคยร้องขอรักตอบ ไม่เคยเรียกร้องสิ่งใด
เพียงเธอรับรู้มีฉันคอยห่วงใย สิ่งนั้นมันมากมายเกินพอ

*ขอเพียงได้คิดถึง แค่นี้ก็สุขใจ
แม้เธออยู่ไกลแสนไกล แม้ใครอยู่ข้างเธอ

**ฉันรู้ควรรักเธออย่างไร จึงยอมเข้าใจทุกอย่าง
ไม่ช้ำไม่เสียใจไม่เคยบาดหมาง ทุกอย่างเต็มใจให้เธอ
(* , **)
ไม่ช้ำไม่เสียใจไม่เคยบาดหมาง ทุกอย่างเต็มใจให้เธอ

เข้าใจกับสิ่งดีๆเสมอ



















การเดินทางทำให้เราได้เรียนรู้ถึงวิธีการแก้ไข
สิ่งร้ายๆ มันทำให้เราได้รู้จัก
และเข้าใจกับสิ่งดีๆเสมอ...
มุมมองเปลี่ยน...ชีวิตอาจเปลี่ยนไป

วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เชื่อมั่น




วันนี้ฉันเองรู้สึกผิดหวัง
เหมือนว่าหลายอย่างมันพังลงตรงหน้า
ความรัก ... ความหวัง ... ความเชื่อมั่น ... ความศรัทธา
ทุกสิ่งที่สร้างมา มันหมดไป


ก็คงเพราะฉันคาดหวังไว้มาก
แล้วต้องทำให้เธอลำบากใช่ไหม
ขอโทษนะ ... แต่ขอสัญญาว่าจากนี้ไป
จะไม่ตั้งความหวังอะไร ... กับเธอ

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552

แล้วอย่าลืมว่า















ชีวิตคนเราต้องการความสุขทั้งกายและใจ
ทางอารมณ์เราก็ต้องมีสติ มีปัญญา พยายามรักษาใจให้เป็นปรกติ
รู้จักประมาณในการกินการอยู่ การปฏิบัติหน้าที่ และการพักผ่อน
ท่านปัญญานันทมุนี

แล้วอย่าลืมว่า พักกายแล้ว หยุดพักใจบ้างละ...

วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552

บ่อยครั้งเต็มไปด้วยคำถาม















บ่อยครั้งเต็มไปด้วยคำถาม ใครกันที่ผิด
แทนที่จะถามว่า...อะไรคือสิ่งที่ถูกต้อง

บ่อยครั้งเต็มไปด้วยคำถาม ใครล่ะที่ลืมก่อน
แทนที่จะถามว่า...ก่อนที่ลืม ความรักเป็นเช่นไร

วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ขอบคุณ















ขอบคุณที่เธอยังคงอ่าน
สิ่งที่ฉันเขียน..

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552

วิธีใช้ชีวิตให้ช้าลง


วิธีใช้ชีวิตให้...ช้าลง

1.อย่ารับทำงานมากเกินควร (แม้บางงานจะอยากทำมากก็ตามที)
2.อย่าอยู่หน้าจอคอมฯ นานเกินไป คอมฯ เป็นอุปกรณ์ดูดเวลาตัวฉกาจ
3.ฟังเพลงบรรเลงบ้าง
4.ปิดโทรศัพท์ขณะอ่านหนังสือ ปิดมือถือขณะรับประทานอาหาร
5.เสื่อผืนหมอนใบ ไปสวนสาธารณะ
6.ขณะกินข้าวอย่าดูทีวี
7.นั่งมองเต่า
8.เขียนโปสการ์ดแทนอีเมล
9.ปลูกต้นไม้ตั้งแต่ต้นเล็กๆ แทนที่จะซื้อต้นใหญ่มาเลย
10.ดมกาแฟก่อนดื่ม
11.จิบชาร้อน แทนน้ำอัดลมเย็นๆ
12.ลองทำอาหารกินเองบ้าง อาทิ ไข่เจียว หรือถ้ายากไปก็-ไข่ต้ม

วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เพราะฉัน ... เป็นฉัน



โปรดอย่าเปลี่ยนแปลงชีวิตฉัน
ขอร้องเธอแค่นั้น จะได้ไหม
มันจะดีจะเลวขอเธออย่าใส่ใจ
มองสิ่งที่เห็น สิ่งที่เป็นไป แค่นั้นพอ

คงเป็นเพราะฉัน ... เป็นฉัน
ไม่สามารถเปลี่ยนตามคนนี้คนนั้นอย่างที่เธอขอ
สิ่งที่ผ่านมา ให้เวลาช่วยรั้งรอ
มองกลับมาว่าฉันดีพอ หรือยัง ?

หัวใจเหนื่อยล้า อ่อนแอ และแพ้พ่าย
ปัญหามากมายคอยจะหยุดยั้ง
เพียงเธอ เพียงคนเดียวที่คอยรับฟัง
เป็นเธอ เป็นพลังที่ให้ก้าวต่อไป

รัก โดยไม่หวังผลตอบแทน ?













เรามีชีวิตอยู่ได้ด้วยออกซิเจน
ความ "รัก" ก็ช่วยทำให้ชีวิตที่เราอยู่ได้นั้นมีความหมาย

เคยสงสัยไหมว่าความรู้สึกที่ว่า "รัก" มันเป็นยังไง...
คนส่วนใหญ่มักจะบอกว่าเรารู้จักกับคำว่า "รัก" ดี"

ทำเพื่อเค้าได้ทุกอย่างโดยไม่หวังผลตอบแทน"

ทำไม เราต้องเสียใจที่เค้าไม่ "รัก" ล่ะ
ก็เพราะเราหวังว่าเค้าจะ "รัก" เราตอบไม่ใช่หรือ
ทำไม ถึงต้องน้ำตาตกเวลาเค้าไม่สนใจ
ก็เพราะเราอยากให้เค้าเห็นความ "รัก" ที่เรามีให้
ทำไม เราถึงต้องเจ็บทุกครั้งที่เค้าไม่แคร์ความรู้สึกของเรา
ก็เพราะเราหวังว่าเค้าจะคนเดียวที่เข้าใจเราในทุกๆอย่างใช่ไหม

แล้วเรายังสามารถที่จะพูดได้อีกไหมว่า
เรา...
"รัก" โดยไม่หวังผลตอบแทน

วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2552

การมาถึง...















การมาถึงของแสงตะวันยามเช้า
เพียงจุมพิตหนึ่งเท่านั้น
ชีวิตฉันก็อบอุ่น

การมาถึงของละอองน้ำฝนในยามเย็น
เพียงจุมพิตหนึ่งเท่านั้น
ชีวิตฉันก็เป็นความจริง

การมาถึงของดวงดาวในยามค่ำคืน
เพียงจุมพิตหนึ่งเท่านั้น
ชีวิตฉันก็เป็นสีทอง

วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2552

กุหลาบแห่งเดือนสิงหาคม











กุหลาบแห่งเดือนสิงหาคม

กุหลาบงามแปดดอกของยามเช้า
วันหนึ่งในเดือนสิงหาคม
กับบางสิ่งที่เริ่มต้น
หัวใจสีเทาและความรักของเรา

วันหนึ่งในห้องสีขาว
เธอบอกกับฉันว่าอยากจะซื้อดอกไม้ให้
เธอชอบให้ดอกไม้กับคนที่เธอรัก
ฉันตอบเธอว่า ซื้อให้ฉันสิ
ฉันเองก็ชอบให้ดอกไม้กับคนที่ฉันรัก
เธอซื้อดอกไม้ให้ฉัน
ในวันหนึ่งแห่งเดือนสิงหาคม
ในห้องสีขาว
หัวใจสีเทา
น้ำหอมและความรักของเรา.

วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ยังจำได้ไหม


เธอยังจำได้ไหม
โปสการ์ดใบหนึ่งที่ส่งมาถึงฉันเมื่อสี่ห้าปีที่แล้ว
เธอยังจำได้ไหม
ว่าเมื่อสี่ห้าปีที่แล้วมีคนธรรมดาคนหนึ่งผ่านเข้ามา
ในชีวิตของเธอ
เธอยังจำได้ไหม
ว่าคนธรรมดาคนหนึ่งแอบเก็บฟอร์เวิร์ดเมล์ของเธอ
ไว้ทุกชิ้น
แต่เธอโปรดจำไว้
ว่าจากนี้ไป ... ฉันรักเธอ

















วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ขอให้มั่นใจ

บางคราวที่ฉันอาจดูเหมือนอ่อนล้า
บางเวลาที่ฉันดูเหมือนหวั่นไหว
บางทีที่อาจดูเหมือนฉันไม่ใส่ใจ
แต่รู้นะ ว่าไม่มีเวลาไหน ที่ฉันไม่รักเธอ

อาจเพราะอะไรบางอย่าง
อาจเพราะความอ้างว้างไม่สดใส
อาจเพราะอากาศไม่เป็นใจ
อาจเพราะเรื่องข้างใน ทำเราไม่เข้าใจกัน

แต่ฉันรักเธอเสมอนะคนดี
แต่แค่หัวใจเท่านั้นที่มีที่มอบให้
แต่มีแค่นี้ดูเหมือนจะไม่พอเท่าไร
แต่ก็ขอให้เธอเข้าใจ ว่าให้มาก เท่าเธอ

วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2552

รักคือการให้อภัย


















รักคือการให้อภัย
.....สาวสวยยานา ราดิโอโนวา ตกเป็นข่าวฮือฮาทางหน้าหนังสือ

พิมพ์อังกฤษ เมื่อเธอตกลงรับคำขอแต่งงานของพ่อหนุ่ม
เจดแฮนสัน เจ้าของสถิติขว้างมีดระดับโลก
.....หน้าตาน่ารักขนาดยานาจะแต่งงานกับใครก็คงไม่แปลก
แต่ที่หลายๆคนสงสัยก็คือเธอตกลงแต่งงานได้ยังไง ในเมื่อว่าที่
เจ้าบ่าวคนนี้เคยทำเธอหัวแบะออกทีวีมาแล้ว
.....เมื่อปีก่อนเจดพยายามทำลายสถิติตัวเอง โดยการเพิ่มจำนวน
มีด ที่ขว้างใส่ยานาสาวน้อยผู้ช่วย แต่เกิดความผิดพลาด
อย่างมหันต์เมื่อเจดขว้างมีดไปโดนหัวของยานากลายเป็น
ภาพสยองให้ ประชาชนได้เห็นในรายการดิสมอร์นิ่งของ
สถานีไอทีวี
.....ยานาได้รับบาดเจ็บไม่มากด้านเจดบอกว่าเขาพลาดเพราะ
ว่าพักผ่อนน้อยเกินไป
.....ยานาเผยระหว่างประกาศข่าวหมั้นว่า ตอนที่โดนมีดปักนั้น
เธอ ไม่รู้สึกเจ็บเท่าไหร่เพราะเธอตกใจจนชาไปหมดตัว
นอกจากนี้เธอยังสงสารเจดที่หน้าซีดเป็นกระดาษมากกว่า
.....“ฉันเลิกรักเขาไปสองสามวัน แต่ตอนนี้กลับมา
รักเขาเหมือนเดิมแล้ว”
.....ยานาบอกว่าเธอไม่แค้นเคืองอะไรเลย แม้ว่า ครั้งนั้น

จะเป็นครั้งที่สามที่เขาทำให้เธอเจ็บระหว่างการแสดงก็เถอะ
.....รักกันจริงก็ต้องให้อภัยได้อย่างนี้แหละ

Credit: จากหนังสือ หมาเท่ากับหมูเรื่องเล่าจากข่าวชวนขำ
ของ กมลวรรณ

วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ฉันจะเดินทางไป













สวัสดีที่รักของฉัน
ใกล้แล้วสินะ ที่ฉันจะเดินทางไป
...
ดูสิว่าวันนั้นจะสดใสเท่าไหน
ดูสิว่าดวงใจของฉันจะโบกบินเพียงใด
ดวงตะวันจะยิ้มรับฉันไหม
ท้องฟ้าสีฟ้า ก้อนเมฆสีขาว จะรู้สึกอย่างไร
ท้องทุ่งสีเขียวจะตื่นเต้นหรือเปล่า
ยามค่ำคืนดวงดาวจะเปล่งประกายแค่ไหน
เสียงเพลงจะไพเราะเพียงใด

ฉันจะเดินทางไป
พร้อมกับความรัก

วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ก่อนที่...















ก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้นมา
ก่อนที่มีเสียงโทรศัพท์เข้ามา
ก่อนที่จะเดินทางออกไปทำงาน

ก่อนที่จะหอมกลิ่นกาแฟตอนเช้า

ก่อนที่จะเปิดคอมพิวเตอร์ทำงาน

ก่อนที่จะถึงเวลาอาหารกลางวัน

ก่อนที่จะได้ยินเสียงแอร์ทำงาน

ก่อนที่หยิบนิตรสารขึ้นมาอ่าน

ก่อนที่ฉันจะหลับตาลงในคืนนี้...
ก่อนที่ความฝันจะผ่านเข้ามา
ก่อนที่ชีวิตต่อจากนี้ไป
และทุกทุกก่อนที่...ฉันจะมีเธอ


วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

วันที่ฟ้าใส

หลังจากฝนตกหนัก รุ่งเช้าฟ้าจะสดใส

เมื่อวานเหมือนพายุกระหน่ำใจฉันอย่างรุนแรง
ความท้อแท้ สิ้นหวัง ประดังประเดเข้ามาไม่หยุดหย่อน
น้ำตาไหลแล้วไหลอีก ราวกับเขื่อนแตก


แต่ก็น่าแปลกหลังจากน้ำตากลบท่วมตาแล้ว
ตาของฉันสดใสกว่าเก่า
พอน้ำเย็นๆ จากฝักบัวไหลกระทบร่างกาย
มันก็พัดพาน้ำจากตาให้หายไปด้วยเช่นกัน


วันนี้ฉันยืนมองฟ้าด้วยความรู้สึกใหม่
เพราะมันดูสดใสกว่าวันที่เคยเห็น
คงเป็นเธอที่ทำให้ฉันรู้จักคิดเป็น

และคงเพราะเธอเห็นในสิ่งที่ฉันทำ


วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ชีวิตฉันมันน่าตื่นเต้นอยู่แล้ว

ทุกวันฉันจะตื่นแต่เช้าตรู่ด้วยความรู้สึกสดชื่น
ซิตอัพ สวดมนต์ แล้วก็นั่งสมาธิ
นับแต่ลืมตา ฉันก็รู้ว่าวันนี้ ฉันจะวางจุดหมายไว้อย่างไร
...
......
มีน้อยครั้งมาก ที่ฉันจะรู้สึกหมดกำลัง
แต่ฉันก็จะนอนลง หลับตา แล้วก็สูดเอากำลังเข้าไปใหม่
เพราะฉันชอบการเอาชนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชนะใจตัวเอง
...
......
ดังนั้นในชีวิตฉันจึงไม่ค่อยรู้จักกับคำว่าขี้เกียจ
ทุกครั้งที่ฉันขี้เกียจ ฉันก็จะตั้งกฎขึ้นมา
เพื่อหักล้างความขี้เกียจนั้น
และเมื่อฉันทำสำเร็จ ฉันจะรู้สึกว่า ตัวเองเป็นผู้ชนะ
อย่างนี้ชีวิตฉัน จึงไม่ต้องแบ่งออกเป็นส่วน ส่วน
ชีวิตฉัน = ส่วนสังคม + ครอบครัว + ส่วนตัว
เพราะฉันชอบความยุ่งเหยิง
และถ้าฉันผ่านความยุ่งเหยิงไปได้

... ฉันก็จะเป็นผู้ชนะ .. อีกครั้ง

เพราะการเอาชนะความยุ่งเหยิง
คือการปลดพันธนาการของปัญหาทั้งปวง

วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ชีวิตผมมันไม่น่าตื่นเต้นอยู่แล้ว















ชีวิตผมมันไม่น่าตื่นเต้นอยู่แล้ว


เช้ามาก็แทบไม่อยากตื่นลุกจากที่นอน
เหมือนว่าจะไม่มีจุดมุ่งหมายในชีวิต

...
ทุกๆครั้งและหลายๆครั้งที่รู้สึกเหนื่อย
ผมก็มักบอกกับตัวเองเสมอว่า ทำมันให้ดีที่สุด
ถ้าผมได้เกิดเป็นคนกวาดขยะผมก็จะกวาดขยะให้สะอาดที่สุด

...
และผมก็ชอบบอกกับใครหลายๆคนที่ผมรู้จักว่า
ชีวิตของคนเราน่าจะแบ่งเป็น3ส่วน
...ส่วนสังคม ผมทำหน้าที่ได้ดี

...ส่วนครอบครัว เป็นครอบครัวที่อยู่กันแบบหลวมๆ สบายๆ
...ส่วนตัว บางครั้งผมก็หลบตัวเอง

ตามร้านหนังสือ ร้านกาแฟ โรงหนัง
และบ่อยครั้งที่ผมอยู่ในห้องโดย

ปลดพันธนาการด้านการสื่อสารทั้งหมด...

วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ความบังเอิญ ... ที่ลงตัว

หากมานั่งนึกถึงเหตุผลที่ฉันและเธอรู้จักกัน
มันก็ดูน่าตลกนัก
เพราะไม่มีใครจำได้สักคน ว่าเรารู้จักกันได้ยังไง ?

แต่ก็ไม่เห็นมันสำคัญ
เพราะอนาคตของเราไม่ได้แขวนอยู่บนเหตุผลเส้นนั้นสักหน่อย

บางทีการที่เรารู้จักกัน
อาจจะเป็นคำสั่งจากคนบนนั้น ... บนฟ้า
ที่ชักนำให้เธอเดินเข้ามา

และนำใจของเรามา ... ใกล้กัน

ฉันขอเรียก การที่เรารู้จักกัน ว่า "ความบังเอิญ"
เพราะเธอเป็นใครก็ไม่รู้ ที่เหมือนเดินออกมาจากความฝัน

ทุกสิ่งที่เธอพูด คือ ทุกสิ่งที่ฉันนึก
ทุกสิ่งที่เธอทำ คือ ทุกสิ่งที่ฉันฝัน

ก็แล้วจะให้ปฏิเสธหัวใจอย่างไร
ในเมื่อเจอแล้วคือเธอนี่ไงที่ใจตามหา
ทุกสิ่งที่เธอทำคือสิ่งที่ฉันคอยตลอดมา
ต้องขอบคุณฟ้า ที่ชักนำเธอมา ให้เจอกัน

สุขใจ ยิ่งกว่าสิ่งใด ใด ที่รู้สึก
สุขใจ ลึก ลึก อย่างไม่เคยคิดฝัน
เพราะเธอ เพราะเธอมาคอยเติมคืนวัน
เพราะฉัน เพราะฉันเป็นคนที่โชคดี

....................................................ณ ขณะนี้ ความรักที่ฉันมี เต็มหัวใจ.........

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เพราะเธอ


2.46 am.
เมื่อคืนเธอได้สร้างรอยยิ้มเปื้อนอยู่ในใจฉัน
เพียงถ้อยประโยคสั้น สั้น แต่กินไปทั้งใจ


เธอเองจะรู้ไหมว่าทำอะไรกับชีวิตฉัน
เธอมาเปลี่ยนแปลงกันให้เปลี่ยนไปขนาดไหน
เข้ามาเติมเต็มความรักความห่วงใย
เข้ามาแบ่งปันอีกหนึ่งใจ...ให้กัน

หาก "เพราะเธอ" ที่ทำให้ฉันสุขใจ
ขอโปรดอย่าทิ้งกันไป...ฉันขอ
อยู่ร่วมสร้างความฝันที่ฉันเฝ้ารอ
อยู่ร่วมเดินทางต่อด้วยกัน

วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

จูบ (Kiss)



จูบ (Kiss):
เจ็ตเซ็ตเตอร์ (Jetseter)

นั่งอยู่ตรงนี้ข้างกายฉันก็มีเธออยู่
ก็ลองมาคิดดู เรานั้นโชคดีกว่าใคร

เพราะมีเธอคนนี้เป็นที่รัก
และฉันไม่ได้ฝันไป ขอให้ลมช่วยพัดพาหัวใจ
สองเราให้ลอยไป ในคืนนี้ โอ้ โอ

Oh baby ฉันรักเธอเท่านั้น
ใต้แสงจันทร์มีเพียงเราสอง
นั่งมองแสงดาวที่พรั่งพราว
บนฟ้าไกลไปด้วยกัน
เปรียบดั่งความฝันในเวลานี้
เมื่อฉันมีเธออยู่แนบชิดกาย
ด้วยสายตาและสัมผัสด้วยรักที่เรามีให้กัน
โอ้ฉันจะจูบเธอ

ไม่อาจจะฝืนความสวยของเธอได้ baby
ต้องยอมรับอีกซักที ว่าเราโชคดีกว่าใคร

เพราะมีเธอคนนี้เป็นที่รัก
และฉันไม่ได้ฝันไป ขอให้ลมช่วยพัดพาหัวใจ
สองเราให้ลอยไป ในคืนนี้ โอ้ โอ

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

วันที่ใจเบิกบาน


้ำวันนี้ดูเหมือนทุกทุกวันทีี่ผ่านมา
ตื่นหกโมงเช้า ซักผ้า อาบน้ำ กินข้าว แล้วก็ไปทำงาน
ทุกอย่างยังเหมือนเดิม พร้อมกับงานที่กองสูงเท่าเดิม
ทุกคนหน้าเครียดเหมือนเดิม

...แต่ฉันหัวใจเบิกบาน...

ฉันทำงานด้วยหน้าตาปรกติ แต่ยิ้มอยู่ในใจ
ฉันเอางานมาวางตรงหน้า แต่เอาใจไปวางตรงเธอ

ในทุกขณะเวลาที่ฉันคิดถึง ฉันมีความสุข
คงเป็นเพราะเธอ ที่ทำให้ใจฉันเบิกบาน (ฉันคิดเช่นนั้น)

หากเปลี่ยนแปลงชีวิตฉัน อย่าทิ้งไว้กลางคัน
อย่าจบไปแค่นั้น ฉันยังไม่เข้าใจ

ช่วยแต่งเติมบทสุดท้าย แม้ไม่เป็นดั่งใจ
อย่าจบมันเอาไว้ ....ทิ้งฉันไปหาใครคนอื่น .....
รู้ตัวหรือเปล่า ?

วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ช่วงเวลาดีดี...ที่จะไม่ยอมให้ผ่านไป



อะ เดย์: โมโนโทน

เธอจะเคยรู้สึกไหม อาจจะเคยสงสัย
ว่าต้องใช้เวลาเท่าไร กับการต้องเดินผ่านใครสักคน
อาจแค่ชั่วพริบตา อาจต้องใช้เวลา
กับความอ่อนไหวและความเหนื่อยล้า
ผ่านมามากมายเหลือเกิน

ก่อนที่ต้องเดินผ่าน ผ่านใครอีกหลายคน
อยากมีช่วงเวลา กับสิ่งดีๆที่ผ่านเข้ามา
เพื่อให้ได้พบคำตอบ ว่าคนที่ฉันเฝ้ารอ

อาจจะเป็นเธอ ที่ผ่านเข้ามาพบเจอ
ไม่ต้องเข้าใจว่าเพราะอะไร

บางสิ่งที่อยู่ข้างในเราเหมือนกัน
อาจแค่ชั่วพริบตา อาจต้องใช้เวลา
จะไม่หวั่นไหวกับความอ่อนล้า
หากว่าคนที่ยืนตรงนี้นั้นคือเธอ

*ช่วงเวลาดีๆที่มีกับเธอคนนี้
จะเป็นช่วงเวลาดีๆที่จะไม่ยอมให้ผ่านไป
ใครเล่าเลยจะรู้ว่าสักวันคุณจะพบใคร
สักคนที่ไม่ต้องเดินผ่าน
หากวันนั้นได้ลองหยุดดูเพื่อพบกัน(กับ)

ก่อนที่ต้องเดินผ่าน ผ่านใครอีกหลายคน
อยากมีช่วงเวลา กับสิ่งดีๆที่ผ่านเข้ามา
เพื่อให้ได้พบคำตอบ ว่าคนที่ฉันเฝ้ารอ

อาจจะเป็นเธอ ที่ผ่านเข้ามาพบเจอ
ไม่ต้องเข้าใจว่าเพราะอะไร

พายุสงบ













เมื่อวานก่อน…

ผมไม่ได้ไปไหนในวันหยุดยาว
จู่ๆ ก็มีพายุเข้า
ฝนตกตั้งแต่เช้ายันเย็น
บรรยากาศช่างชวนให้ขี้เกียจ
ผมนอนกลางวันเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี

บรรยากาศเดิมๆ...
กับห้องนอนผ้าปูที่นอนสีตุ่นๆ
ผมยังนึกไม่ออก
กับสิ่งที่จะทำต่อไป
และดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร
กับชีวิตที่มีความรักครั้งใหม่...

พายุสงบ
ผมคิดถึงคุณ...

เหมือนเรา (ไม่) เข้าใจ

ตอนนี้เที่ยงคืนกว่าแล้ว ฉันยังไม่นอน ตั้งแต่คุยกับเธอเสร็จ
น้ำตาสองสามหยดไหลรินออกมา หลังจากวางสายโทรศัพท์ไป
น้ำเสียงเธอดูเศร้า และแน่นอน ฉันก็เศร้าตาม
เธอบอกเศร้าเพราะหนัง แต่ฉันอยากบอกว่าฉันเศร้าเพราะเธอ

ฉันโทรหาเธอห้าหกสายได้มั้ง ..........ติดต่อไม่ได้...........
ทั้งที่ความจริงมันอาจจะไม่มีอะไร แต่ฉันก็ไม่สบายใจ
ฉันเพียรพยามยามต่อเนตเจ้าปัญหา ตั้งแต่ห้าทุ่มกว่าแล้ว
และหวังว่าเธอจะยังใช้มันอยู่
หรือหากเธอหลับแล้ว พรุ่งนี้ เธอคงจะรู้ว่าฉัน "แคร์เธอมาก"

คงเพราะฉันเป็นฉันแบบนี้ ในขณะที่เธอก็เป็นเธอ
....... ดูเหมือนเรา ไม่ เข้าใจกัน .........
ฉันไม่ควรปล่อยให้เวลามันล่วงเลย แล้วจึงโทรกลับไปหาเธอ
เพราะบางทีเวลาเพียงเสี้ยว อาจทำให้เธอ ..หายไป..
คืนนี้ ฉันรู้สึกว่าเวลามันช่างยาวนาน คืน ที่ไร้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ....

วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เมื่อยามฝนพรำ...เธอทำอะไร













วันนี้อากาศที่นี่ไม่สดใสเอาซะเลย

สายฝนโปรยปรายมาตั้งแต่รุ่งเช้า จนเย็นค่ำ

เม็ดต่อเม็ด เหมือนฟ้าฝนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

...ฉัน... นอนอุตุอยู่ในห้องทั้งวัน
และ "คิดถึงเธอ"
ฝนพรำที่นำพาเอาความเหน็บหนาวเข้ามา

มันหนาวเข้าไปถึง ...หัวใจ...


วันนี้อากาศที่นู่นคงจะสดใสหล่ะมั้ง ?
เธอก็คงทำงาน ทำงาน แล้วก็ทำงาน

งานต่องาน คงยุ่งจนทำให้เธอลืมนึกถึงกัน


ถ้าฉันเป็นสายลม ฉันคงจะเฝ้าตามเธอไปทุกหนแห่ง
ถ้าฉันเป็นสายฝน ฉันคงจะเฝ้ามองเธอจากนอกหน้าต่าง


"เมื่อยามฝนพรำ...เธอทำอะไร"
จะนึกถึงกันบ้างไหม อยากถาม

เพราะฉันคิดถึงเธอ ทุกขณะทุกโมงยาม

ที่อยากคุยอยากถาม ก็เพราะความห่วงใย


"เมื่อยามฝนพรำ...ฉันคิดถึงเธอ"
และยังคิดถึงเสมอ ไม่ว่าฝนตกหรือไม่

ฝากบอกเธอ ฝากทวงถามความห่วงใย

ส่งมาให้บ้างได้ไหม ฉันจะรอ


วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เธอใช่ไหม ที่หัวใจตามหา

เมื่อวานฉันตื่นขึ้นมา ดำเนินชีวิต ให้ผ่านไป แล้วก็ผ่านไป
ทำงาน ทำตามหน้าที่ ทำเรื่องที่ต้องทำ แล้วก็ทำเพื่อตัวเอง
ไม่มีจุดหมาย ไม่มีปลายทาง ไม่ได้นึกถึงใคร
ปล่อยให้วันเวลามันล่วงเลยไป โดยที่ไม่ทันมองข้างกาย
.................ว่ามันว่างเปล่า......................

วันนี้ฉันตื่นขึ้นมา ดำเนินชีวิต ที่ยังคงเป็นเหมือนเดิม
ทำงาน ทำตามหน้าที่ ทำเรื่องที่ต้องทำ แล้วก็ทำเพื่อ ฉัน กับ เธอ

วันนี้ฉันเริ่มวางเป้าหมาย คิดถึงปลายทาง แล้วก็นึกถึง เธอ

วันเวลาตอนนี้ผ่านไปอย่างมีค่า และฉันยังแอบมองข้างกายอยู่บ่อยๆ

....................เพราะมีเธอ......................

พรุ่งนี้ฉันจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับเธอ เพื่อดำเนินชีวิตไปด้วยกัน
ทำงาน ทำตามหน้าที่ ทำเรื่องที่ต้องทำ แล้วก็ทำเพื่อ "เรา"
พรุ่งนี้ "เรา" เดินไปตามเป้าหมาย และจะเดินไปให้ถึงปลายทาง
วันเวลาตอนนี้มีค่าและตราตรึง ฉันมองไปที่ข้างกายฉัน และพบว่า

...............เธอใช่ไหม ที่หัวใจตามหา..............
......

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เราจะข้ามเวลามาพบกัน









ที่กรุงเทพฯ
ช่วงเย็นๆใกล้ค่ำ..
ฝนจะตกเหมือนทุกๆวัน
เหมือนตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ให้
เทวดามารดน้ำกรุงเทพให้เปียกปอน

อากาศที่นี่ช่วงค่ำคืน เย็นสบายมาหลายวัน...
หลังฝนโปรยปรายมาจนเทวดาพอใจ

ช่วงหนึ่ง…ในห้องแคบๆ คอนโดเก่าๆ
ผมเปิดเพลงจากเครื่องลำโพง
เพลงที่เปิด…
เป็นเหมือนเพื่อนที่สนิทมากที่สุดผมตอนนี้
แต่เพลงที่เปิดทำไมกลับกลายทำให้
ผมรู้สึกโดดเดียวอย่างบอกไม่ถูก

วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2552

วันที่ฟ้าหม่น

อากาศเย็น ๆ ฝนไม่ตก แดดไม่ออก ดูอึมครึมอย่างบอกไม่ถูก
ในใจยิ่งเหงา เค้วงคว้างจนจับใจ
เหมือนกำลังไขว่คว้า แต่ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
สิ่งที่ตามหา ดูเหมือนนับวันยิ่งไกลออกไปทุกที

วันนี้ วันที่ฟ้าหม่น ตัวฉันก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม
เฝ้ามองเธอที่กำลังดำเนินชีวิตในเมืองกรุง ที่ทับทวีความเจริญ
เธอเดินไป ยิ่ง ไกล....ไกล..........ไกล.. แต่ตัวฉันอยู่นิ่ง

เธอหันหลังกลับมา บอกว่า "เราจะเดินไปด้วยกัน"
แล้วเธอก็หันหลังกลับไป ... ปล่อยฉัน เดียวดาย ...

วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เสี้ยวหนึ่งของอารมณ์รัก


อย่าหันหลังให้กับความรักในขณะที่ความรักยืนจังก้าอยู่ต่อหน้าคุณ
อย่าได้ไล่มันออกไปจากคุณ เพราะว่าถ้าคุณทำอย่างนั้น..
สักวันหนึ่งคุณจะหวนคิดขึ้นได้ว่า..
สิ่งที่คุณไล่เปืดไปนั้น..แท้จริงแล้วครั้งหนึ่งเคยอยู่ใกล้ชิดตัวคุณนี้เอง
จงให้คุณค่าแก่คนที่รักคุณ..มันไม่ใช่เป็นสิ่งที่ง่ายเลยในการที่จะได้พบคนที่รักคุณจริงๆ
เพราะในหัวใจที่จริงจังซื่อตรงหาไม่ได้นัก และมีคุณค่าสูงเหลือเกิน

บางครั้งสิ่งที่ทำให้เราเสียใจมากที่สุดในชีวิต ไม่ใช่สิ่งที่เราสูญเสียหรือผิดหวัง..
แต่กลายเป็นความเสี่ยงที่เราไม่กล้าเสี่ยง
ถ้าคุณคิดว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่จะทำให้คุณมีความสุขมาก
จะมุ่งไปหามันเพราะในจังหวะชีวิตของคนเรา เรามักจะไม่ผ่านมาบนถนนสายเดิมซ้ำอีก
เวลาไม่เฝ้าคอยใคร ถ้าคุณคิดว่าคุณได้พบกับสิ่งที่ถูกต้องและถูกใจ..
จงถนอมมันไว้อย่างมีคุณค่า
อย่าปล่อยให้เขาหลุดลอยไป อย่าปล่อยให้ความกลัวเข้าครอบงำและดังเหนี่ยวคุณไว้
ไม่มีใครนอกจากคุณเท่านั้นที่จะรู้ว่าอะไรจะทำให้คุณมีความสุขอย่างแท้จริง...













คนเรามักจะไม่เห็นคุณค่าความสำคัญของคนที่เรารักและใกล้ชิดกับเขา
จนกระทั่งพวกเขาได้จากเราไป
จงมีความกล้าหาญที่จะรัก แม้ว่าคุณรู้อยู่เต็มอกว่าจะต้องสูญเสียมันไปในที่สุดก็ตาม..
ดีกว่าที่คุณจะไม่พบความรัก เพราะคุณขี้ขลาดเกินกว่าที่จะกล้าเผชิญกับมัน

สิ่งที่ท้าทายที่สุดในชีวิตคนเราก็คือการเสาะหาใครสักคนหนึ่ง
ที่รู้จักความบกพร่องด่างพร้อยของเรา
ความไม่ดีของเรา ความแตกต่างของเรา แต่เขาก็ยังรักเราอยู่อย่างสุดจิต สุดใจ..
ถ้าคุณพบคนอย่างนี้ จงรักเขาให้หมดหัวใจคุณ..
เพราะคุณจะหาคนอย่างนี้ได้ไม่ง่ายนัก หรืออาจจะไม่พบอีกเลยในชีวิตของคุณ

โดย:ศาสตราจารย์เจริญ วรรธนะสิน